ในโลกของการเทรดสกุลเงินดิจิทัล แผนภูมิความลึกทำหน้าที่เป็นตัวแทนภาพของจำนวนคำสั่งซื้อและขายในตลาด โดยมอบข้อมูลเชิงลึกอันล้ำค่าให้กับผู้เทรด ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงระดับกิจกรรมของผู้ใช้และปริมาณการเทรดบนกระดานแลกเปลี่ยนเท่านั้น แต่ยังให้ข้อมูลอ้างอิงที่สำคัญสำหรับการประเมินความลึกและสภาพคล่องของตลาดอีกด้วย
ดังที่ชื่อแสดงไว้ แผนภูมิความลึกคือการแสดงความลึกของตลาดในรูปแบบกราฟิก ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูจำนวนคำสั่งซื้อและการขายในตลาดเทรด และมักพบเห็นบนกระดานแลกเปลี่ยนที่ใช้สมุดคำสั่งเทรด แผนภูมิความลึกแสดงถึงกิจกรรมของผู้ใช้และปริมาณการเทรดบนกระดานแลกเปลี่ยน ช่วยให้เห็นภาพชัดเจนถึงความลึกและสภาพคล่องของตลาด ด้วยเหตุนี้ การเข้าใจวิธีการอ่านแผนภูมิเชิงลึกจึงเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้ค้าทุกคน
แผนภูมิความลึกคือเครื่องมือที่แสดงความลึกของตลาดในรูปแบบภาพ หากใช้การเทรด BTC สปอตบน MEXC เป็นตัวอย่าง แผนภูมิเชิงลึกทั่วไปจะประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญดังต่อไปนี้:
แกนนอน (แกน X): แสดงราคาสั่งซื้อโดยเพิ่มขึ้นจากซ้ายไปขวา และสะท้อนถึงช่วงราคารวมในตลาด
แกนตั้ง (แกน Y): ระบุปริมาณการสั่งซื้อ คือ จำนวนรวมของคำสั่งซื้อหรือการขายที่วางไว้ในแต่ละระดับราคา
พื้นที่สีเขียว: หมายถึงฝั่งซื้อ (การเสนอซื้อ) หรือการรวบรวมคำสั่งซื้อที่ต้องการซื้อในราคาปัจจุบันหรือต่ำกว่า พื้นที่สีเขียวที่ใหญ่ขึ้นบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งขึ้น
พื้นที่สีแดง: หมายถึงฝั่งขาย (ราคาเสนอขาย) หรือกลุ่มคำสั่งเทรดที่ประสงค์จะขายในราคาปัจจุบันหรือสูงกว่า พื้นที่สีแดงที่ใหญ่ขึ้นบ่งชี้ถึงแรงขายที่แข็งแกร่งขึ้น
จุดตัด: แสดงถึงราคาตลาดปัจจุบันซึ่งเป็นจุดที่แรงซื้อและแรงขายมีความสมดุล
ช่วงราคา: สะท้อนถึงช่วงความผันผวนของราคา ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดยินดีที่จะยอมรับการเคลื่อนไหวของราคาในระดับใด
การตีความแผนภูมิความลึกถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เทรด เนื่องจากไม่เพียงแต่ช่วยในการประเมินความลึกของตลาดเท่านั้น แต่ยังเผยให้เห็นความสมดุลของแรงซื้อและแรงขายอีกด้วย
ความลึกของตลาดหมายถึงความสามารถของตลาดในการดูดซับคำสั่งซื้อและการขายที่ระดับราคาที่กำหนด การวิเคราะห์แผนภูมิความลึกช่วยให้ผู้ค้าสามารถประเมินคุณภาพของความลึกของตลาดได้โดยตรง:
หนังสือคำสั่งซื้อที่หนาแน่นพร้อมสเปรดที่แคบ: หากคำสั่งซื้อและการขายถูกจัดชั้นอย่างใกล้ชิดกันที่ระดับราคาหลายระดับ แสดงว่าตลาดมีความลึกที่ดีกว่า ซึ่งหมายความว่าคำสั่งเทรดจำนวนมากจะกระจุกตัวอยู่ใกล้กับราคาปัจจุบัน ช่วยให้ผู้เทรดสามารถดำเนินธุรกรรมที่ใกล้เคียงกับมูลค่าตลาดมากขึ้นและลดต้นทุนการเทรดได้
สมุดคำสั่งซื้อแบบบางและมีช่องว่างกว้าง: ในทางกลับกัน หากมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างระดับคำสั่งซื้อ แสดงว่าตลาดมีความลึกน้อย สิ่งนี้บ่งชี้ว่าจะมีคำสั่งเทรดน้อยลงในระดับราคาบางระดับ ดังนั้น ผู้ค้าอาจต้องเผชิญกับสเปรดที่กว้างขึ้นและการลื่นไถลของราคาที่มากขึ้นเมื่อดำเนินการคำสั่งเทรดในตลาด ส่งผลให้มีต้นทุนการเทรดที่สูงขึ้น
ความสมดุลระหว่างแรงกดดันในการซื้อและการขายถือเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญในการประเมินแนวโน้มตลาด การเปรียบเทียบขนาดของพื้นที่สีแดงและสีเขียวในแผนภูมิเชิงลึก ช่วยให้ผู้ค้าสามารถประเมินความรู้สึกของตลาดได้อย่างรวดเร็ว:
พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่: บ่งชี้ถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งขึ้น แสดงให้เห็นว่าตลาดอาจมีแนวโน้มขาขึ้น
พื้นที่สีแดงขนาดใหญ่: บ่งชี้ถึงแรงขายที่แข็งแกร่งขึ้น แสดงให้เห็นว่าตลาดอาจมีแนวโน้มลดลง
พื้นที่ที่คล้ายกัน: บ่งบอกถึงความสมดุลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย แสดงให้เห็นว่าตลาดอาจอยู่ในช่วงการรวมตัว
โดยใช้แผนภูมิความลึกของ BTC เป็นตัวอย่าง แผนภูมินี้จะแสดงคำสั่งซื้อและการขายที่ระดับราคาที่แตกต่างกัน พื้นที่สีเขียวทางด้านซ้ายแสดงถึงฝั่งซื้อ โดยแสดงจำนวน BTC ที่ผู้ซื้อยินดีจะซื้อในราคาต่างๆ พื้นที่สีแดงทางด้านขวาแสดงถึงฝั่งขาย โดยแสดงจำนวนที่ผู้ขายเต็มใจที่จะขาย จากแผนภูมิจะสังเกตได้ว่ามีแรงซื้อที่แข็งแกร่งที่บริเวณ 112,230.37 USDT ในขณะที่แรงขายที่สำคัญปรากฏที่บริเวณ 114,314.58 USDT
ต้นทุนการเทรดต่ำลง: ตลาดที่มีความลึกมากหมายถึงจำนวนคำสั่งซื้อที่มากขึ้น ช่วยให้ผู้ค้าสามารถซื้อหรือขายในราคาที่ใกล้เคียงกับระดับตลาดจริง จึงช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรมได้
หลีกเลี่ยงการลื่นไถล: ในตลาดที่มีความลึกต่ำ อาจมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างราคาคำสั่งซื้อและราคาที่ดำเนินการจริง ส่งผลให้เกิดการลื่นไถล การวิเคราะห์แผนภูมิความลึกช่วยให้ผู้ค้าสามารถคาดการณ์สภาวะความลึกของตลาดล่วงหน้าและหลีกเลี่ยงการเทรดในสภาวะที่มีความเสี่ยงจากการลื่นไถลสูง
กำหนดกลยุทธ์การเทรด: การผสมผสานการวิเคราะห์แผนภูมิเชิงลึกกับการเปรียบเทียบแรงกดดันในการซื้อและการขาย ช่วยให้ผู้ค้าสามารถออกแบบกลยุทธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น ในตลาดที่มีแรงซื้อที่แข็งแกร่งกว่า การซื้อเมื่อราคาลดลงอาจเป็นผลดี แต่ในตลาดที่มีแรงขายที่แข็งแกร่งกว่า การขายเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นอาจเหมาะสมกว่า
เนื่องจากแผนภูมิความลึกเป็นเครื่องมือสำคัญในการเทรดสกุลเงินดิจิทัล จึงมีค่าที่ไม่อาจทดแทนได้สำหรับผู้เทรด การฝึกฝนให้เชี่ยวชาญการตีความแผนภูมิความลึกจะช่วยให้ผู้ค้าประเมินความลึกของตลาดและความสมดุลของแรงกดดันในการซื้อและการขายได้ดีขึ้น ช่วยให้ผู้ค้าพัฒนากลยุทธ์การเทรดที่แม่นยำยิ่งขึ้น ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าการเทรดสกุลเงินดิจิทัลมีความเสี่ยงอย่างมาก ผู้เทรดควรเข้าใจความเสี่ยงเหล่านี้อย่างถ่องแท้และใช้ความระมัดระวังในการลงทุน
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: สื่อนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน ภาษี ข้อกฎหมาย การเงิน บัญชี การให้คำปรึกษา หรือบริการใดๆ ที่เกี่ยวข้อง และไม่เป็นคำแนะนำในการซื้อ ขาย หรือถือครองสินทรัพย์ใดๆ ทั้งสิ้น MEXC Learn ให้ข้อมูลเพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน โปรดแน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วนและลงทุนด้วยความระมัดระวัง การตัดสินใจและผลลัพธ์การลงทุนทั้งหมดขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว